อายเมริค ลาปอร์ต กองหลังคนสำคัญชาวฝรั่งเศส ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กลับมาลงสนามให้กับพลพรรคเรือใบสีฟ้าได้อีกครั้งหลังจากบาดเจ็บยาว และพาทีมเก็บคลีนชีทด้วยการเปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม เอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-0 ในเกมลีกเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกมกับเวสต์แฮมนั้น แสดงให้เห็นแล้วว่า ลาปอร์ต มีความสำคัญอย่างไรกับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสเปนของแมนซิตี้ และนี่เพิ่งเป็นเกมที่ 6 ในซีซั่นนี้เท่านั้นที่ปราการหลังเฟรนช์แมน ได้ลงสนามเป็นตัวจริงหลังจากได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรงในเกมกับ ไบรท์ตัน เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน การขาดหายไปของ ลาปอร์ต ในช่วงเวลาหลายเดือนนั้น ส่งผลอย่างใหญ่หลวงของแนวรับแมนซิตี้ ซึ่งนั่นทำให้ในลีกปีนี้พวกเขาถูก ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูง ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชชาวเยอรมัน ทำแต้มทิ้งห่างไปถึง 22 คะแนน
การ์ดิโอล่า กล่าวกับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “ถ้าไม่มีเขาลงสนามมันก็เป็นเรื่องที่แตกต่าง ในช่วงที่ผ่านมาเราคิดถึงเขามาก ลองนึกภาพทีมที่ดีที่สุดในโลกที่สูญเสียกองหลังตัวกลางที่ดีที่สุดของพวกเขาไปสิ อายเมริค อ่านเกมได้อย่างยอดเยี่ยม เขารวดเร็ว แข็งแกร่งในการเล่นลูกโด่ง เขามีคุณสมบัติทั้งหมดที่เหมาะสมสำหรับทีมของผม เขาเป็นกองหลังตัวกลางที่ดีที่สุดในโลก” อดีตนายใหญ่ บาร์เซโลน่า ในศึกลาลีกา สเปน กล่าว
แมนซิตี้ โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเช่นกันที่การสูญเสีย ลาปอร์ต จะทำให้พวกเขาเสียหายขนาดนี้ และแม้แต้ในช่วงที่ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางตัวเก่งทีมชาติเบลเยียม ได้รับบาดเจ็บยาว พลพรรคเรือใบสีฟ้าก็ไม่ได้ฟอร์มตกเหมือนในปีนี้ ใน 6 เกมที่ ลาปอร์ต ได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับแมนซิตี้ ในฤดูกาลนี้ เขาพาทีมเก็บไปถึง 4 คลีนชีต และความสำคัญของเขายิ่งปรากฏเด่นชัดขึ้นอีกเมื่อเรือใบสีฟ้าลงเล่นไป 20 เกม โดยที่ไม่มีดาวเตะชาวฝรั่งเศสนั้น พวกเขาเก็บคลีนชีตได้เพียง 5 เกม ซึ่งลูกทีมของ การ์ดิโอล่า มีแนวรับอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
เกมกับเวสต์แฮมนับเป็นการลงสนามเกมที่ 50 ของลาปอร์ต กับแมนซิตี้ นับตั้งแต่ย้ายมาจาก แอตเลติก บิลเบา เมื่อปี 2018 และสิ่งที่น่าสนใจคือ อิทธิพลของกองหลังวัย 25 ปีนั้นชัดเจน เมื่อทีมได้ครอบครองบอลเพื่อทำเกมรุก ในความเป็นจริงเกมกับ เวสต์แฮม นั้น แมนซิตี้ครองบอลได้ถึง 78 เปอร์เซ็นต์ และนี่อาจเป็นที่ที่ผลกระทบของเขาชัดเจนที่สุดของ ลาปอร์ต ซึ่งมีสถิติผ่านบอลมากกว่ากองหลังคนอื่นๆในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเขามีส่วนสำคัญในการขึ้นเกมจากแนวรับตามสไตล์ที่ กวาร์ดิโอล่า ต้องการ
กวาร์ดิโอล่า กล่าว่า “เขาเพิ่มทางเลือกให้กับเราในการขึ้นเกม และเราก็สามมารถเพิ่มจังหวะเร็วของเกมได้จากการขึ้นบอลของเขา แต่เมื่อคุณมีกองหลังถนัดเท้าขวาในทีม และเขาต้องยืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟฝั่งซ้าย แนวรุกของเราจึงต้องขยับเขาไปด้านใน มันซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย”
มีตัวอย่างมากมายในเกมกับเวสต์แฮม เมื่อลาปอร์ต ผ่านบอลให้กับ เซอร์จิโอ อเกวโร่ หัวหอกอาร์เจนไตน์ เข้าไปยิงประตูในกรอบเขตโทษในช่วงกลางครึ่งหลัง และสถิติตลอดทั้งเกมของอดีตกองหลังบิลเบา ผ่านบอลประสบความสำเร็จถึง 98.3% ในเกมกับ เวสต์แฮม นั้น จำนวนการผ่านบอลของแมนซิตี้ รวมทั้งทีมมากถึง 891 ครั้ง ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในซีซั่นนี้ที่พวกเขาลงสนาม และผลงานของ ลาปอร์ต ก็น่าประทับใจอย่างมาก และเขาได้โอกาสสัมผัสบอลมากถึง 196 ครั้ง แม้จะเล่นแค่ 3 ใน 4 ของการแข่งขันทั้งหมดรวมทุกรายการให้กับ แมนซิตี้ จนถึงเวลานี้ แต่ลาปอร์ตก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาสำคัญมากแค่ไหนกับทีมของ กวาร์ดิโอล่า ซึ่งเขาทำให้โค้ชชาวสเปน มีทางเลือกมากมายในการขึ้นเกมรุก นอกจากจากเป็นตัวหลักในการขึ้นเกมจากแนวรับแล้ว ลาปอร์ต ยังมีส่วนสำคัญในการบัญชาการแนวรับของ แมนซิตี้ ซึ่งเขามักจะเขาไปช่วยปิดพื้นที่ของกองหลังคนอื่นๆที่ยืนคู่เขาอย่าง นิโกลัส โอตาเมนดี้ ปราการหลังอาร์เจนไตน์ และจอห์น สโตน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษ ที่มักตะหลุดตำแหน่งอยู่บ่อยครั้ง
คุณสมบัติทั้งหมดของ ลาปอร์ต นั้น เป็นสิ่งสำคัญในการประความสำเร็จของ แมนซิตี้ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และสถิติจาก OPTA ระบุว่า อดีตแนวรับ บิลเบา ผ่านบอลจังหวะสำคัญได้อย่างมากมายในแดนหลังของคู่แข่ง ลาปอร์ต ผ่านบอลในแดนสุดท้ายของคู่แข่งไปมากถึง 345 และผ่านบอลขึ้นหน้าไปมากกว่า 1,000 ซึ่งสถิติแบบนี้มันยังมากกว่าผู้เล่นในตำแหน่งอื่นๆบางคนเสียอีก และมันก็ไม่น่าแปลกใจที่ แมนซิตี้ ฟอร์มตกไปเมื่อไม่มีเขาลงสนาม
อลัน สมิธ กูรูลูกหนังของ “สกายสปอร์ต” กล่าวว่า “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องสงสัยว่า สิ่งต่างๆจะแตกต่างกันอย่างมากในทีมทุกสัปดาห์ ถ้า อายเมริค ลาปอร์ต สามารถลงสนามได้ เขาสร้างความแตกต่างอย่างมาก เขาเป็นหัวใจสำคัญของการป้องกัน ด้วยความสงบ และการครอบครองบอลของเขา แม้ว่าการลุ้นแชมป์ลีกอาจจบไปแล้ว แต่การที่เขากลับมาทันเวลาในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับ เรอัล มาดริด มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม”
การกลับมาของลาปอร์ตนั้น จะทำให้แมนซิตี้มีแนวรับแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และมีทางเลือกกมากกว่าเดิม ซึ่งกวาร์ดิโอล่าคงตั้งใจว่าเขาจะพาพลพรรคเรือใบสีฟ้ามุ่งมั่นคว้าแชมป์ยุโรปให้ได้หลังจากที่ล้มเหลวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
นายใหญ่แมนซิตี้ กล่าวว่า “เราไม่สามารถคาดหวังว่า อายเมริค กำลังจะแก้ปัญหาทั้งหมดให้กับเรา” แม้โค้ชชาวสเปนจะกล่าวแบบนั้น แต่ตอนนี้ลาปอร์ต แสดงให้เห็นว่า เขาจะแก้ปัญหาให้เรือใบสีฟ้ามากพอที่จะทำให้พวกเขาจบฤดูกาลด้วยถ้วยรางวัล